5 ภาพยนตร์แอนตี้ Valentine
Valentine วันที่ทุ่มเทให้กับการเฉลิงฉลองความรักที่ดูจะเป็นความคิดที่ดีถ้าคุณกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ของความรักหรือมีความสุขที่จะอยู่คนเดียว แต่ถ้าคุณกำลังตกผอยู่ในช่วงพยาบาลแผลหัวใจที่แตกสลายอยู่ หนังพวกนี้มันอาจทำให้อาการดีกว่าเดิมก็ได้
และแน่นอนว่า เทศกาลแห่งความรักยังได้การตอบรับจากผู้คนเป็นอย่างดี คุณจะไม่สามารถกำหนดวันผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสีชมพูและสีแดงได้ แต่หลังจากที่อกหักมันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรจะมีความสุขเหมือนคนอื่น จริงๆแล้วมันก็แค่ 14 กุมภา คุณเองสามารถทำอะไรให้ตัวเองเพื่อให้วันนี้เป็นคืนสุดพิเศษสำหรับตัวเราเองได้
แทนที่คุณเองจะมัวแต่มองหาคนรัก จริงๆแล้วคุณควรทำตัวให้เหมือนกับภาพยนตร์วาเลนไทน์ดีๆเหล่านี้ ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้น ลืมความเจ็บและอยู่อย่างมีความสุข ความจริงภาพยนตร์มันทำให้คุณมีความสุข หัวเราะ หรือร้องไห้เท่าเทียบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนจอที่กำลังดู คุณควรหาอะไรมาเป็นเพื่อนขณะที่กำลังดูภาพยนตร์แอนตี้วาเลนไทน์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม ขนม หรือแม่แต่กระดาษทิชชู่
พวกภาพยนตร์แอนตี้วาเลนไทน์เหล่านี้จะทำให้รู้ว่า "พวกออกเดทเก่ง ไม่มีจริงอีกต่อไป"
Legally Blonde (2001)
หลังจากที่ถูกบอกเลิก เธอก็เกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับความรัก ไม่ว่าจะเป็นละครในทีวี หรือแม้แต่คนรักกัน เธอก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป
- (500) Days of Summer (2009)
เหมือนถูกสร้างขึ้นเพื่อต้อต้านหนัง Rom-Com เมื่อ (500) Days of Summer ได้เล่าความจริงหลังอกหัก การที่คุณจะหาใครสักคนที่ช่วยเหยียดหยามความรักเก่าๆนั้นบางทีมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ใันก็แค่ความรักเก่าๆที่เข้ากันไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไม่ทำอย่างนั้น.
สุดยอดภาพยนตร์โรแมนติก เพราะทุกหัวใจมีรัก เพราะทุกคนมีหัวใจก็ย่อมมีรัก กับความรักที่หลากหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นว่า วันวาเลนไทน์เท่านั้นคือวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะวันไหนๆทุกคนก็มีรักและเป็นวันแห่งความรัก.
- Into The Wood (2014)
ถ้าคุณเบื่อกับการได้ยินเรื่องราวของทุกคนที่จบอย่างมีความสุข Into The Wood สร้างมาเพื่อคุณเลย ทุกอย่างของเนื้อเรื่องสร้างมาให้เหมือนกับทุกคนอยู่ในป่าแต่ตอนจบของนิทานนั้นจบได้อย่างสวยงามและรวดเร็ว สิ่งที่ไม่ได้เล่าเรื่องว่าทุกคนจะย้ายออกหรืออยู่กันอย่างมีความสุข การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั่นคือรักแท้.
- The Spectacular Now (2013)
ภาพที่หวาน อม ขม กลืนของความรักครั้งแรกและจบอย่างไม่ชัดเจน แต่ความไม่ชัดเจนมันช่วยให้คุณวาดข้อสรุปของการจบความสัมพันธ์ด้วยตัวคุณเอง บางทีเราอาจจะกลับมาหากัน หรือบางทีเราอาจจะไม่กลับมาหากันอีกเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณรู้สึก.